กลางเดือนพฤศจิกายนนี้ ร้านกาแฟจากโคเปนเฮเกนอย่าง La Cabra (ลาคาบลา) พร้อมเปิดสาขาแรก ณ ย่านตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ ร้านกาแฟที่มีความโดดเด่นตั้งแต่การคั่วเมล็ดในกรุงโคเปนเฮเกน โดย Mikkel และทีม ตั้งใจให้การคั่วกาแฟสะท้อนถึงรสชาติที่แท้จริงของกาแฟที่มาจากไร่กาแฟต่างๆ ที่ La Cabra ได้ร่วมงานด้วย โดยกาแฟของร้านแห่งนี้จะใช้วิธีการคั่วแบบ one roast ซึ่งให้รสชาติของกาแฟเป็นเอกลักษณ์และกลิ่นที่หอมละมุน โดยทางร้านพิถีพิถันในการคั่วและชงเมล็ดกาแฟต่างๆ อย่างเหมาะสม อาทิ เอธิโอเปีย เบนซา โลจิตา ซึ่งเป็นกาแฟตัวล่าสุดที่มาพร้อมกลิ่นมะลิอ่อนๆ และเต็มไปด้วยรสชาติผลไม้กลุ่ม stone fruit พีช และน้ำผึ้ง ที่ทาง La Cabra แนะนำว่ากาแฟตัวนี้ควรจะพักกาแฟหนึ่งสัปดาห์หลังจากวันคั่ว เพื่อให้กาแฟได้คลายแก๊ส และผู้ดื่มจะได้สัมผัสรสชาติที่ชัดเจน แต่หากมีโอกาสอยากให้ได้ลองพักกาแฟของเราไว้ประมาณ 3-4 สัปดาห์ รสชาติของกาแฟของเราจะชัดเจนยิ่งขึ้นตามแบบฉบับของลาคาบลา
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ Espresso ทางร้านมีเมล็ดกาแฟให้ได้เลือกเปิดประสบการณ์การทานกาแฟเอสเพรสโซถึงสองแบบ ลูกค้าสามารถเลือกสั่งแบบ Comfort โดยใช้ Single Origin เป็นเมล็ดกาแฟบราซิล ซึ่งรสชาติจะออกไปทางรสช็อคโกแลต คาราเมล พร้อมกลิ่นผลไม้อ่อนๆ หรือลูกค้าสามารถเลือกทานแบบ Adventurous เพื่อลองชิมรสชาติกาแฟของประเทศอื่นๆ ที่มีความแปลกใหม่และพิเศษมากขึ้น โดยสามารถสอบถามเกี่ยวกับรสชาติกาแฟแต่ละชนิดได้กับบาริสต้าของทางร้าน โดยทีมบาริสต้าที่ได้เข้าร่วม workshop กับทีมลาคาบลา เดนมาร์ก โดยมี @victorftk @esbenpiper@mikkel_selmer @benevardk เป็นผู้ฝึกสอน โดยได้รับคำแนะนำตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการเลือกเมล็ดกาแฟ จนถึงขั้นตอนการชงกาแฟให้ได้รสชาติตามแบบฉบับของทางร้าน
@victorftk มีส่วนร่วมในการฝึกสอนทีมลาคาบลา กรุงเทพ โดยวิคเตอร์เป็นบาริสต้าที่ร่วมงานกับลาคาบลา ประเทศเดนมาร์ก เป็นเวลากว่า 5 ปี และเขาเป็นผู้ชนะการแข่งขัน Brewer’s cup ของประเทศเดนมาร์ก ในปี 2020 นี้อีกด้วย
หนึ่งในสาขายอดนิยมของร้าน La Cabra ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
คุณสามารถพบกับ La Cabra สาขาแรกในไทยย่านตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กลางเดือนพฤศจิกายนนี้ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากอินสตาแกรมของ La Cabra Thailand